หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์กระพริบเป็นจังหวะก่อนดับไป
ปล่อยทิ้งไว้เพียงความมืด ไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยแสงอ่อนๆจากรอยแยกบนผนังโลหะ
ทุกสิ่งเกิดขึ้นหลังจากลิฟท์ตัวหนึ่งเกิดการขัดข้อง
จำต้องหยุดลงชั่วคราวที่ชั้นยี่สิบเอ็ดของตึกสูง
ชายสองคนรู้สึกพื้นที่สั่นไหวที่ใต้เท้าของพวกเขา
มือบางกำราวเหล็กแน่น คล้ายฝากชีวิตตัวเองไว้บนนั้น
หันหน้าเขาหากระจกที่อยู่ติดกัน ส่วนชายร่างสูงยืนมองประตูที่ปิดสนิทไร้ทางออก
เมื่อเห็นอีกคนที่ยืนนิ่งด้วยเข่าสองข้างสั่นเทา หากสังเกตให้ดี
เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ชายผิวแทนยิ้มขึ้นมากับใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย
ปรากฎดวงตานักล่าที่ซ่อนเร้น พร้อมออกล่าเหยื่อตามจังหวะหัวใจที่เต้นถี่
คนผมบลอนด์เดินอย่างเก้ๆกังๆไปด้านหน้า
เต็มไปด้วยความประหม่า
สายตาประจบพบกับปุ่มที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะที่เขียนว่าฉุกเฉินอยู่ด้านหน้า
เขากดลงไปด้วยความแรงกว่าที่ควร ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ
แต่สิ่งที่ได้คืนมากลับเป็นความเงียบงัน เขาลองอีกครั้ง กดซ้ำหลายครา แต่ไม่เป็นผล
เสียงเริ่มแหบพร่า ยังคงไร้การตอบรับ
“ลู่หาน” คนด้านหลังเรียกชื่อ
เขาหันกลับไปโดยที่มือยังคงอยู่บนปุ่มเก่าๆนั่น เจ้าของเสียงทุ้มต่ำยืนอยู่ที่มุมห้อง
วางแขนพักสบายๆดูไม่ยี่หระกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
คล้ายกับว่าทุกอย่างอยู่ในควบคุมของเขาเองทั้งหมด
“ไอ้ปุ่มนั่นมันอาจจะพังไปแล้ว” เขากล่าวต่อ
ทำให้คนผมบลอนด์มองจ้องร่างสูงด้วยสายตาที่เบิกกว้าง “ก่อนหน้านี้ เราเพิ่งถึงชั้นสิบแปดเมื่อลิฟท์มันหยุด”
“แล้ว?”
“เพราะงั้น...จงอิน...เราอยู่สูงกว่าพื้นโลกสักห้าสิบเมตร
ว่างเปล่า” สายตาหวานตวัดมองบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะเป็นกล้องวงจรปิดบริเวณมุมห้อง
“กล้องก็น่าจะพังเหมือนกัน...หรือมันเคยใช้ได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้?
ช่างเถอะ เดี๋ยวก็มีคนมาซ่อม” ร่างสูงผมสีน้ำตาลเสริมและตบฝ่ามือลงที่พื้นข้างๆเป็นการชวนอีกคนให้มานั่งด้วยกัน
“ตกลงไปตายแน่เลย” ร่างบางขยับเข้ามาใกล้แต่ยังไม่ยอมนั่งลง
จงอินพูดต่อราวกับไม่ได้ยินเสียงเล็กนั่น
“คงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ อาจเป็นชั่วโมง...เราควรทำตัวผ่อนคลายเข้าไว้”
น้ำเสียงนั่นกล่าวเมินเฉย ปลดเนคไทที่คอและกระดุมเสื้อออก
แต่ลู่หานยังคงนิ่งและเงียบอยู่ที่เดิม
“ฉันบอกว่า...” เจ้าของเสียงทุ้มลุกขึ้น
เดินตรงไปหาอีกฝ่ายที่ยังไม่เลิกอกสั่นขวัญแขวนกับเหตุการณ์ตรงหน้า “...เราต้องทำตัวให้ผ่อนคลาย”
ความเงียบงันเข้าครอบงำทั้งคู่ยาวนานกว่าเก่า
แต่อย่างน้อยมือบางก็หัดเลียนแบบสิ่งที่เขาทำก่อนหน้าบ้าง ปลดเนคไทให้หลวม
ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเชื่องช้า ชักนำให้คนที่ยืนมองอยู่รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ
“ให้ช่วยปลดไหม?” จงอินถามขึ้น
แต่เขาไม่รอคำตอบพร้อมกับดึงเนคไทที่เกะกะนั่นออก กดหยิกผิวขาวบาง
กระตุกเงื่อนสุดแรง จนทั้งหมดรุ่ยร่วงมาอยู่ในมือ กระดุมเสื้อเม็ดบนสุดถูกปลดออก
-หนึ่ง… และเลื่อนลงปลด -สอง… มือหนาใช้เวลาไล้ไปตามผิวขาวที่ถูกซ่อนไว้ -สาม…
ตลอดทุกวินาที อีกฝ่ายตายังคงมองไปที่พื้น
ปิดปากแน่นเงียบกริบ เหลือเพียงลมหายใจที่ขาดห้วงออกมาดังกว่าสิ่งใสรอบด้าน
เมื่อใบหน้าเรียวเงยขึ้น
จงอินมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน ไร้ความเกรงกลัว สายตาที่ทำให้เขายิ้ม
และใน สาม...สอง...หนึ่ง
สองร่างประกบเข้าหากันในทันใด
เชื่อมต่อกันด้วยริมฝีปากและลิ้นที่ร้อนระอุ ใบหน้ารู้สึกถึงลมหายใจที่อุ่นรด
ลู่หานอาจไม่สามารถควบคุมตัวเองต่อการกลัวความสูงได้
แต่เขาสามารถควบคุมทุกท่าทางที่ต้องการได้ในตอนนี้ ส่งลิ้นตรงเข้าพัวพัน
ริมฝีปากอวบอิ่มไร้ความปราณี แลกเปลี่ยนด้วยความร้อนเร่า ชิมรสผิวสัมผัสของร่างกาย
กล่องเหล็กโลหะไม่สามารถคุกคามอารมณ์ได้อีกต่อไป
โยนทิ้งความจริงที่พวกเขากำลังถูกแขวนชีวิตอยู่บนเส้นด้ายออก
ปล่อยเนคไทในมือทิ้งลงกับพื้น ปลดเปลื้องอาภรณ์ด้านล่างอย่างรวดเร็ว
แสงไฟอ่อนๆที่ผนังสว่างวิบวาบ
แว่วเสียงคล้ายกับคนกำลังกระแอมบอกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่กันลำพัง
“ด...เดี๋ยว ถ้าเขามีคนกำลังดูเราอยู่ละ?”
ลู่หานถามขึ้น คลายมือที่กุมผมสีน้ำตาลออก
“ใครจะไปสน” เสียงจงอินหอบหนัก
ปากยังคงแทรกสอดไปตามลำคอขาว ดูดด่ำทิ้งรอยแดงไว้เป็นเส้นแดงฉาน
ทิ้งตัวลงวางเข่ากับพื้น ปลดซิปปล่อยกางเกงกองไว้ที่ข้อเท้าไม่แยแส
ฝ่ามือลูบไล้ร่างที่เปลือยเปล่า บีบคลึงต้นขาอ่อนจนเป็นรอย
ก่อนจะเงยหน้ามองสายตาฉ่ำเยิ้มที่ก้มลงมา หายใจระริน
ผมม้ากระเซอะกระเซิงดูน่ารักปนเย้ายวน แต่สายตากลับเห็นได้ชัดว่าลังเล
มือที่กำแน่นกลับกลับคลายลงเสียดื้อๆ
“ลู่หาน” เขาเรียกด้วยน้ำเสียงดุดันหลังจากกระตุ้นสิ่งที่โป่งพองอยู่ใต้ผ้า
มันได้ผลชะงัก สติกลับคืนไร้ข้อกังขา
ความรู้สึกถาโถมเข้ามาจนมือบางจิกกลุ่มผมสีน้ำตาลแน่น
ฝ่ามือหนาขยับโอบกุมส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริก ขยับเคลื่อนเร่งเร้าให้ร่างบางได้พอใจ
โพรงปากที่ดูดดุดอย่างกระหายนั่นเรียกความสนใจได้ล้ำเลิศที่สุด
ยอดเยี่ยม
ทุกสัดส่วนถูกห่อหุ้มด้วยลิ้นร้อน
บดเบียดเสียดดุนจนเปียกชุ่ม ริมฝีปากหนาหยอกล้อขยับเข้าออกไม่ปราณี
เกิดเสียงแฉะน่าอายจากน้ำลายชายหนุ่มดังชัด ราวจับไม้ที่อุ่นในตอนแรก
กลับเย็นชืดเมื่อเทียบกับความเร่าร้อนของจงอินที่กำลังปรนเปรอให้ ราวฟ้ากับเหว
ลู่หานร้องครางเมื่อริมฝีปากหนาที่รัดแน่นรูดถอยออกจนสุดทาง
ปรากฎเส้นน้ำลายใสเจือฟองขาวเชื่อมระหว่างปลายของรักกับปากที่ชุ่มฉ่ำ
เสียงหวานครางดังกว่าเก่า เมื่อสายตาชายหนุ่มจ้องตรงมาอย่างนิ่งงัน
นัยน์ตาประสานตรึงไว้ ก่อนใช้มือช่วยปลดปล่อยความปรารถนา ค่อยๆส่งนิ้วมือที่เปียกปอนไปด้วยของเหลว
ตรงเข้าปากช้าๆ ปลุกปลั่นอารมณ์ในกายลู่หานเต็มสุดแสน
ภาพตรงหน้าเย้าสุดยอดเกินบรรยาย
ลู่หานหวังเพียงเห็นคนตรงหน้าเปลื้องผ้าออกให้หมดจนไร้สิ่งปกปิด เขาร้อนรุ่ม ร้อน
เผาไหม้ร่างที่อยู่จนมุมละลาย อ้าปากหายใจสูดอากาศรอบตัวให้กับหน้าอกที่บีบรัดแน่น
“อาาาา” เสียงกระเส่าร้องเร่าออกมา
ความเจ็บปวดแล่นปราดเมื่อโดนนิ้วของจงอินสอดเข้ามาภายใน คับแน่นทั้งร่างอึดอัด
ครางหอบหายใจที่ยากขึ้นทุกวินาที บิดตัวกดเล็บจิกลงตรงเนื้อชายหนุ่ม
ควานหาสิ่งรอบกายที่จะพยุงตัวไว้ สติที่เหลือเพียงน้อยนิดรีบยกขาพาดไหล่กว้างเอาไว้
เมื่อนิ้วต่อไปสอดเสียดเข้ามาเพิ่ม อัดล้วงคลึงด้านใน
แหย่เย้าเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาต้องการมากกว่าเดิม ความปรารถนาไร้ที่สิ้นสุด
“ได้โปรด” เสียงหวานครางร้อง
“จงอิน...ได้โปรด ได้โปรด...เร็ว...” เขาร้องขออย่างบ้าคลั่ง
โชคดีเหลือเกินที่ครั้งนี้จงอินไม่แกล้งเขาอย่างที่เคยชอบทำบนเตียง
ร่างสูงยืนขึ้นทันทีที่เสียงเว้าวอนเริ่มขาดห้วง
ใบหน้าดุดันรีบร้อนปลดเปลื้องสิ่งที่โป่งนูนในกางเกงออกอย่างเร็วไว
แต่มันไม่ว่องไวพอสำหรับความต้องการของลู่หานที่กำลังเอ่อล้น
“เร็วสิ...” ร่างบางวิงวอนอีกครั้ง
ยกเท้าเตะกางเกงที่กองเกะกะอยู่ออกไปให้พ้นทาง
หยาดเหงื่อเกาะกุมทั่วหลังเผยชัดเมื่อเจ้าตัวถอดเสื้อทิ้ง
หันหน้าเข้ากับมุมห้องพิงร่างกายที่อ่อนยวบเอาไว้อย่างเหนื่อยอ่อน “จงอิน…เร็วสิ...ก่อนที่เราจะโดนจับได้”
จงอินตัวชาในฉับพลันก่อนจะหยิบเนคสีดำของลู่หานบนพื้นขึ้นมา
ลู่หานรู้สึกไม่ดีนัก คล้ายกับมีบางสิ่งดุร้ายจ้องเขมือบเขาอยู่ด้านหลัง
ก่อนจะหันขึ้นไปมองภาพสะท้อนในกระจก
ก็สัมผัสถึงบางสิ่งที่ถูกรวบกระตุกอยู่บริเวณผมบลอนด์
เขาร้องออกมาเบาๆ ลืมตาเห็นจงอินกำลังใช้ไทด์สีดำขลับปิดปากเขาไว้แน่น
ยังไม่ทันรู้ถึงชะตากรรม ร่างสูงก็กดท้ายทอยเขาไปด้านหน้า
ก้มลงกระซิบน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “นาย...พูดมาก...ก้มตัวลงไป”
เจ้าตัวทำตามในทันที
ความรู้สึกตื่นเต้นวิ่งปราดไปทั่วเส้นเลือดในร่างกายเมื่อได้ยินคำสั่ง
ความต้องการที่ดุดัน ท่าทางที่เร่าร้อน ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความเจ็บปวดและความพอใจ
ล้วนเป็นสิ่งที่พร้อมรับ ท่าทางนั่นปลุกปั่นอารมณ์ในกายจงอินพุ่งทะยานขึ้น
สอดแทรกตัวเข้าหาร่างบางทันที
แกนใหญ่ที่ชุ่มไปด้วยของเหลวเบียดเสียดเข้าหา จู่โจมช่องทางรักเริ่มจากผิวเผินจนสุดทาง
ลู่หานครางอยู่ในลำคอด้วยความรู้สึกอึดอัดคับแน่นไปทุกอณู กรีดร้องเหมือนลูกแมวต้วน้อยที่กำลังโดนเล่นงาน
เนคไทเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของริมฝีปากชมพูหวานเสียงกระเส่า
แรงกระแทกชวนเสียวซ่านไปถึงช่องท้อง ขยับมือออกจากกระจกใส
หมายจะจัดการตัวเองให้ได้ปลดปล่อย แต่กลับโดนจงอินที่อยู่ด้านหลังตรึงเอาไว้แน่น
“อยากเสร็จบ้าง?”
หากเป็นเวลาอื่นลู่หานคงตอบคำถามบ้านั่น
แต่ตอนนี้เขาได้เพียงครวญคราง สื่อร้องบอกถึงอารมณ์ราคะที่ไร้การยับยั้งสิ้นคิด เอี้ยวตัวเผชิญหน้ากับจงอินที่กำลังแสร้งยิ้ม ขยับสะโพกถี่ยิบ
สลับเข้าออกเคลื่อนกายเสียดสี ปมเกลียวคลื่นความปรารถนายิ่งพันทบ ความกระสันแล่นปราดเชี่ยวกราดขึ้นทุกขณะ
เร็วขึ้น เร็วขึ้น พร้อมกันจัดการให้เสร็จสรรพ มือใหญ่ที่หยาบกร้านโอบกุมรอบส่วนที่ร้อนรุ่มเอาไว้
ขยับขึ้นลงไปพร้อมกับเอวที่ไม่หยุดปรนเปรอ ฟางเส้นสุดท้ายโดนตัดผึง
เมื่อจงอินใช้นิ้วโป้งปัดปรายส่วนยอดกระสัน ร่างบางโก่งตัว เสียงหวานกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมาพอใจ
จงอินกระแทกหนักสุดฤทธิ์ขึ้นสู่จุดสุดยอดเมื่อเห็นสายตาฉ่ำเยิ้มชำเลืองมองในกระจก
สะท้อนภาพร่างบางตัวแดงฉาน ผมบลอนด์ยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง
เนคไทสีดำตัดกับใบหน้าเรียวขาว ผูกแน่นจนเป็นรอยยาว
นัยน์ตาดำขลับของร่างสูงเด่นชัด เอ่อล้นไปด้วยปรารถนา ไร้ซึ่งความอาย
ร่างบางสั่นเทาเมื่อเห็นดวงตาคมคายนั่น เบือนหน้าหลบหลีก
แอ่นรับของเหลวอุ่นที่ไหลวนเข้ามาในร่าง ปล่อยให้โดนตรึงค้างจนจงอินยอมผละออก
แข้งขาไร้เรี่ยวแรง ทิ้งตัวลงกับพื้น
ปล่อยตัวเองอยู่ในท่าคลานทั้งอย่างนั้นกับมุมห้อง หายใจอ่อนเปลี้ย
ไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งอีกฝ่ายหย่อนตัวโอบเอวเขา วางคางบนหัวไหล่เบาๆ
-----------------------------------
Author: oigabuss
No comments:
Post a Comment